เคยฝันอยากตื่นมาแล้วเห็นยอดเขาสูงตระหง่าน ทะเลสาบสีมรกต หรือชายหาดขาวสะอาดที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาไหม? ถ้าคำตอบคือ “ใช่!” — งั้นเตรียมแพ็กกระเป๋าให้พร้อม เพราะที่นี่คือศูนย์รวมสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่ สวยที่สุดในโลก ที่คุณไม่ควรพลาด!

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางสายลุย รักความสงบ หรืออยากสัมผัสความงดงามของโลกใบนี้ เรามีลิสต์จุดหมายปลายทางสุดว้าวให้คุณเลือกมากมาย!

ใครจะไปเชื่อว่า หุบเขาดอกไม้หรือ Valley of Flowers National Park นั้นตั้งอยู่ในประเทศอินเดีย ในรัฐทางตอนเหนือที่มีชื่อว่ารัฐอุตตราขัณฑ์ (Uttarakhand) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาตินันทาเทวี และยังได้ถูกได้รับเลือกว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยที่สุดในโลกและเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อของอินเดียอีกด้วย โดยคุณจะสามารถพบกับดอกไม้หายากนานาพันธุ์มากกว่า 520 สายพันธุ์ 

.

.

.

Faroe Island หรือหมู่เกาะแฟโร ตั้งอยู่ในมหาสมุทนแอนแลนติกเหนือที่อยู่ภายใต้การปกครองของประเทศเดนมาร์ก ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างนอร์เวย์และไอซ์แลนด์ โดยแฟโรเป็นเกาะเล็กๆ ที่สวยงามตระการตาจนอาจจะทำให้คุณหยุดหายใจไปชั่วขณะเลยทีเดียว ถือเป็นสวรรค์แห่งนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความสวยงามอันไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากนั้น ยังมีโรงแรมระดับ 5 ดาว ร้านอาหาร ร้านกาแฟ บาร์ต่างๆ รวมถึงสถานที่จัดนิทรรศการที่เปิดให้บริการเพื่อเสิร์ฟทุกความสุขและความสนุกให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี จนต้องบอกว่าครบจบในที่เดียว ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติทั่วโลกที่สายรักธรรมชาติต้องมาเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิต

เพลิดเพลินไปกับอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite National Park) แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เปี่ยมด้วยทัศนยภาพของทิวเขาผาสูงตระการตา ซึ่งถูกโอบล้อมด้วยต้นสนที่มีจุดเด่นและเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติจากทั่วมุมโลกที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ราวกับต้องมนต์ เพราะฉะนั้น หากคุณได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้แล้วจะต้องไม่พลาดไฮท์ไลท์สำคัญอย่าง Mirror Lake ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นท้องฟ้าและภูเขาที่ถูกสะท้อนลงบนทะเลสาบได้อย่างปราณีต เรียกว่าเป็นทัศนียภาพที่เพียงแค่ได้เห็นก็คลายความเหนื่อยล้าหายเป็นปลิดทิ้ง

The Great Blue Hole หลุมยักษ์น้ำเงินครามแห่งเบลิซ ที่ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของอเมริกากลางริมทะเลแคริบเบียน ขวัญใจนักดำน้ำที่คุณจะสามารถดำดิ่งชื่นชมความงามของแนวประการัง นอกจากนี้คุณยังสามารถพบเจอกับปลาหลากหลายสายพันธุ์ จึงนับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติจากทั่วทุกมุมโลกที่น่าดำน้ำมากที่สุด ดยเฉพาะหากคุณเป็นนักดำน้ำมืออาชีพต้องหาโอกาสมาทดสอบความสามารถและดื่มด่ำความงดงามที่ไม่สามารถหาได้จากที่ใดบนโลก

Fairy Pool สระว่ายน้ำธรรมชาติที่หลายต่อหลายคนลงความเห็นว่าเปรียบเสมือนสวรรค์บนดินของเหล่านางฟ้าที่ต้องการลงมายังพื้นโลกแห่งนี้ ที่สำคัญสระแห่งนี้ยังถูกแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สุดสวยที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งมีสถานที่ตั้งอยู่บนหุบเขาเกลน บริทเทิล ที่อยู่บริเวณทางตอนใต้ของเกาะ Isle of Skye สถานที่แห่งนี้ถูกโอบล้อมด้วยกำแพงหินที่ตั้งตระง่านและถูกปกคลุมด้วยหมู่มลแมกไม้สีเขียวชอุ่ม

หลุมว่ายน้ำธรรมชาติอันแสนมหัศจรรย์ของประเทศเม็กซิโก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่สักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่า Mayan นับตั้งแต่เข้ามาตั้งรกรากถิ่นฐาน โดยพวกเขาจะใช้สระน้ำแห่งนี้เพื่อเป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อสารกับทวยเทพ โดย Cenotes มีความหมายว่า “Sacred Well” บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในปัจจุบันสถานที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่เหล่านักดำน้ำต่างพากันหลงใหล และต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่ราวกับคุณกำลังด่ำดิ่งสู่อีกโลกหนึ่ง จึงนับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่ขึ้นชื่อมากที่สุดแห่งหนึ่งจากทั่วทั่วโลกที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย อีกหนึ่งแรงบันดาลในการผลิตผลงานภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง อวตาร (Avatar) โดยอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยเปรียบเสมือนเมืองภูเขาลอยฟ้าแห่งดาวแพนดอร่าที่นับว่าเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกทั้งยังได้รับการรองรับขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี ค.ศ. 1992 ซึ่งนับเป็นความสวยงามที่ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้มีโอกาสสัมผัสธรรมชาติแบบเต็มรูปแบบ 360 องศา

มาชู ปิกชู เจ้าของฉายาเมืองสาบสูญแห่งอินคา ณ ประเทศเปรู ดินแดนในฝันของใครหลายคน ที่สำคัญยังเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มีมาตั้งแต่ในสมัยโบราณ โดยภายนอกถูกรายล้อมด้วยยอดเขาสูงเฉียดฟ้าจากเทือกเขาแอนดีส ทั้งยังมีซากเมืองโบราณของอารยธรรมอินคาซ่อนอยู่ จึงนับว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยที่สุดในโลกที่สามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มายังสถานที่แห่งนี้ได้

น้ำตกอีกวาซู หรือ สายน้ำอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นภาษากวารานี (Guarani) ของชนเผ่าอินเดียแดง นับเป็นมรดกโลกที่ถูกรับรองจาก UNESCO และยังเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติยุคใหม่ (New Seven Wonders of Nature) แห่งปี 2011 เรียกว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่ถูกรังสรรค์มาอย่างบรรจง

เส้นทางแห่งผู้พิชิตเนินผา Trolltunga (โทรลส์ทุงกา) หรือ ลิ้นของโทรลส์ โดยสาเหตุที่ถูกเรียกเช่นนี้เนื่องจาก ลักษณะของผาที่ยื่นออกมานั้นมีลักษณะรูปร่างเหมือนแผ่นหินซึ่งยื่นออกไปจากหน้าผาที่สูงลิบเหนือทะเลสาบ Ringedalsvatnet ถึง 700 เมตร โดยตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของที่ราบสูง Hardangervidda ใกล้เมือง Odda 

น้ำตก Gullfoss เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากในไอซ์แลนด์ และจัดให้เป็น 1 ใน 3 ของ “วงกลมทองคำ” ที่ผู้มาเยือนไอซ์แลนด์จะต้องมาเที่ยว น้ำตก Gullfoss อยู่บนแม่น้ำ Hvita เมื่อหยดละอองน้ำของน้ำตก Gullfoss ตกกระทบลงกับหิน และร่วงลงสู้ผิวน้ำเป็นระยะความสูงกว่า 32 เมตร เป็นภาพสวยงามที่นักท่องเที่ยวต่างประทับใจไม่รู้ลืม และบางครั้งเมื่อละออกน้ำกระทบกับแสงเกิดเป็นปรากฏการณ์รุ้งให้เห็นอีกด้วย โดยมีเรื่องเล่าว่าในช่วงทศวรรษที่ 20 ได้มีชาวต่างชาติคิดที่จะเอาน้ำตกนี้พื้นดินของน้ำตกแห่งนี้ไป ลูกสาวของเกษตรกรซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่ตรงตรงข้ามกับน้ำตกไม่เห็นด้วย และประท้วงด้วยการที่ว่าถ้าเอาพื้นดินน้ำตกไปเธอจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ในท้ายที่สุดเธอก็ได้รับชัยชนะจากการประท้วงครั้งนี้ ต่อมาในปี 1979 จึงได้สร้างอนุสรณ์ไว้เป็นความทรงจำใกล้น้ำตกแห่งนั้น เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจถึงความกล้าหาญของเธอ

ทะเลสาบ Resia ทะเลสาบที่อยู่ทางภาคเหนือของอิตาลี เป็นทะเลสาบที่สร้างขึ้นเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองมีโครงการสร้างเขื่อน ทำให้ต้องอพยพผู้คนในเมืองเพื่อไปหาที่อยู่ใหม่ และทิ้งเมืองให้ว่างเปล่า หลังจากนั้นจึงปล่อยน้ำให้ท่วมเมือง ทุกสิ่งทุกอย่างจมอยู่ใต้น้ำ เหลือเพียงแต่หอนาฬิกาที่ตั้งเด่นเป็นสัญลักษณ์ว่าตรงนี้เคยเป็นเมืองที่มีคนอยู่อาศัยมาก่อน จนต่อมากลายเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวต้องแวะเวียนกันเข้ามาเยี่ยมชม ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวยังสามารถขี่จักรยานไปตามเส้นทางภูเขาโดยรอบทะเลสาบ ซึ่งในช่วงฤดูหนาวทะเลสาบจะจับตัวเป็นน้ำแข็ง กลายเป็นทางเดินที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยังหอระฆังได้ และยังมีเรื่องเล่าว่าในบางคืนเราอาจได้ยินสียงระฆังดังขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ระฆังถูกถอดออกนานแล้ว

ภูเขาไฟ Kelimutu อยู่ในอุทยานแห่งชาติในประเทศอินโดนีเซีย ความมหัศจรรย์ของภูเขาไฟแห่งนี้คือบนยอดภูเขาไฟมีทะเลสาบขนาดเล็ก 3 แห่ง ซึ่งน้ำในทะเลสาบแต่ละแห่งจะมีสีที่ต่างกัน และยิ่งมหัศจรรย์มากขึ้นไปอีกเมื่อน้ำในทะเลสาบแต่ละแห่งยังเปลี่ยนสีได้อีกด้วย ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าเพราะอะไรที่ทำให้น้ำในทะเลสาบเปลี่ยนสีได้ แต่ก็มีการสันนิษฐานกันว่า เพราะแก๊สและควันที่ผุดขึ้นมาตามรอยแยกของก้นทะเลสาบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแก๊สแต่ละชนิดนั้นมีส่วนทำให้นำในทะเลสาบเกิดสีที่แตกต่างกันไป

ทะเลสาบซึ่งอยู่ทางวันออกเฉียงเหนือของประเทศแทนซาเนีย เนื่องด้วยอากาศที่ร้อนจัดทำให้น้ำในทะเลสาบระเหยเป็นไอจนทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ค่อนข้างตื้น ความพิเศษของทะเลสาบที่นี่คือน้ำในทะเลสาบไม่ใช่น้ำที่พบตามทะเลสาบทั่วไป แต่มีสภาพคล้ายน้ำปูนซึ่งเกิดจากส่วนผสมของแร่ธาตุที่เรียกว่า Natron และมีอุณหภูมิสูงถึง 106 องศาฟาเรนไฮต์ ด้วยอุณหภูมิและค่า PH แบบนี้ ทำให้สิ่งมีชีวิตไม่อาจอาศัยอยู่ได้ มีเรื่องเล่าลือกันว่าหากสัตว์ชนิดใดตกลงไปในทะเลสาบก็จะกลายสภาพเป็นซากแข็งเหมือนหิน แต่ในความเป็นจริงแล้วที่ Lake Natron เป็นแหล่งกำเนิดและที่อยู่อาศัยของสัตว์มากมายหลายชนิด เช่น นกฟลามิงโก้นับล้านตัวจะบินมาที่ทะเลสาบแห่งนี้ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ตลอดจนยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์นกกะเรียนของทวีปแอฟริกาอีกด้วย

น้ำตกอีกแห่งในสหรัฐที่ชื่อดังไปทั่วโลกกับความอลังการของสายน้ำที่รวมน้ำตกไว้ถึง 3 แห่งด้วยกัน โดยที่กว้างที่สุดเป็นส่วนที่อยู่ในพรมแดนแคนาดากับความยาวถึง 790 เมตร ขณะที่มีการวัดปริมาตรน้ำที่ไหลบ่าลงมานั้นสูงถึง 2,400 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเลยทีเดียว ที่นี่มีน้ำตกไหลตลอดปีแตกต่างกันไปตามฤดูกาล  ช่วงเวลาน่าไปที่สุดจะเป็นช่วงหน้าร้อนระหว่างพฤษภาคมถึงกันยายนด้วยอากาศสดใส


บทความที่เกี่ยวข้อง